สุภาษิตภาษาอังกฤษ-สุภาษิตภาษาไทย
การศึกษาสุภาษิต-คำคมภาษาอังกฤษ จะทำให้เราทราบความหมายของสุภาษิต-คำคมนั้นได้รับความรู้เรื่องคำศัพท์ อีกทั้งยังได้เรียนรู้ความเชื่อ ค่านิยมและวัฒนธรรมเจ้าของภาษาที่สอดแทรกอยู่ ประโยชน์สูงสุดคือการมีคุณธรรมและจริยธรรมที่ดีจากสุภาษิต-คำคม ซึ่งสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ ซึ่งผู้จัดทำได้รวบรวมไว้ดังนี้1. An accident is due to lack of proper care. = อุบัติเหตุมักจะเกิดขึ้นจากการขาดความระมัดระวัง
2. Don’t charge your memory with too many facts = อย่าใช้สมองจดจำเรื่องราวต่าง ๆ ให้มากจนเกินไป
3. A mad man is not responsible for his actions. = คนบ้าไม่ต้องรับผิดชอบในการกระทำของเขา
4. It’s a sad house where the hen crows louder than the cock. = สามีเป็นช้างเท้าหน้า ภรรยาเป็นช้างเท้าหลัง
5. Marriage is an expensive luxury. = การแต่งงานเป็นของฟุ่มเฟือยที่แสนแพง
6. Fools build house; wise men buy them. = คนโง่สร้างบ้านอยู่ คนฉลาดซื้อบ้านสร้างเสร็จอยู่
7. Keep something for a rainy day. = กินน้ำเผื่อแล้ว
8. There is no fool like an old fool. =ไม่มีใครโง่เกินคนแก่โง่
9. Kill not the goose that lays the golden eggs. = โลภมากลาภหาย.
10. Facts are stubborn things. = ความจริงล้างอย่างไรก็ไม่เลือนหาย
11. It is a foolish sheep that makes. The wolf his confessor. = อย่าชี้โพรงให้กระรอก
12. Brave actiuons never want trumpet. = การกระทำอันกล้าหาญ ไม่จำเป็นต้องป่าวประกาศให้ใครรู้
13. Good manners are part and parcel of a good education. = กิริยามารยาทที่สุภาพเรียบร้อย เป็นส่วนสำคัญจากการได้รับการศึกษาดี
14. A bad workman always blames his tool. = รำไม่ดีโทษปี่โทษกลอง
15. Habituate yourself to hard work. = จงฝึกฝนตัวเองให้เคยชินกับงานหนัก
16. Fine features make fine birds. = ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง
17. Man has gregarious habits. = มนุษย์ชอบอยู่รวมกันเป็นกลุ่มเป็นหมู่คณะ
18. Big fish eat little fish. = ปลาใหญ่กินปลาเล็ก
19. Guardianship has many responsibillitie. = การเป็นผู้ปกครองนั้นต้องมีความรับผิดชอบมาก
20. A friend in need is a friend indeed = เพื่อนแท้คือเพื่อนในยามยาก
21. Birds of a feather flock together = คบคนพาล พาลพาไปหาผิด
22. Actions speak louder than words = ทำดีกว่าพูด
23. A bird in head is worth two in the bush = สิบเบี้ยใกล้มือ
24. A rolling stone gathers no moss = รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี
25. Absence makes the heart grow fonder = ตัวไกลใจอยู่ยิ่งไกลก็ยิ่งรักกัน
26. Make hay while the sun shines = น้ำขึ้นให้รีบตัก
27. He laughs best who laughs last = หัวเราะทีหลังดังกว่า
28. Listeners hear no good of themselves = นินทากาเลเหมือนเทน้ำ
29. It is never too late to mend = ไม่มีอะไรสายสำหรับการเริ่มต้น
30. Still water runs deep = น้ำนิ่งไหลลึก
31. Good cloths open all doors. = ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง
32. Overtly agree but coertly oppose = ปากว่าตาขยิบ หรือพูดอีกอย่างแต่ทำอีกอย่าง
33. Cry for the Moon = กระต่ายหมายจันทร์ หมายถึงหนุ่มหมายปองสาวที่มีฐานะดีกว่า
34. Apple of sodom =สวยแต่รูป จูบไม่หอม งามภายนอกแต่ใจแย่ไง
35. When misfortune reaches the limit, good fortune is at hand = ต้นร้ายปลายดี เริ่มต้นไม่ดีแต่ไปดีเอาตอนหลัง
36. Between the devil and the deep blue sea = หนีเสือปะจรเข้
37. Be caught red-handed = จับได้คาหนังคาเขา
38. To take for a needle in a haystack = งมเข็มในมหาสมุทร
39. To eat one's cake and have it too = จับปลาสองมือ
40. To take something with a pinch of salt = ฟังหูไว้หู ฟังแล้วคิดพิจารณาก่อนจะเชื่อ
41. As you sow, so you reap = ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว
42. Cannot make head or tail of = จับต้นชนปลายไม่ถูก
43. You can not teach old dogs new tricks. = เราไม่สามารถสอนกลเม็ดใหม่ๆ ให้สุนัขแก่ได้....
หรือ ไม้แก่ดัดยากนั่นเอง...
44. Where there is a will, there is a way = ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น
45. Look before you leap = จงดูให้ดีก่อนื้จะกระโดด หมายถึง คิดให้ดี รอบคอบก่อนที่จะทำอะไร
46. Prevention is better than cure = กันไว้ดีกว่าแก้
47. Do as Romans do when you are in Rome = จงทำตัวให้เหมือนคนโรมันเมื่ออยู่ในกรุงโรม....
หรือ เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม
48. Joy and sorrow are as near as today and tomorrow. = ความสุขกับความทุกข์อยู่ใกล้กันเหมือนวันนี้กับวันพรุ่งนี้
49. He who has never tasted bitterness does not know what is sweet = ผู้ที่ไม่เคยรับรู้รสของความขมขื่นจะไม่รู้ว่าความหวานชื่นคืออะไร
50. One who lives in a glasshouse should not throw stones. = เมื่ออยู่ในเรือนกระจกไม่ควรขว้างก้อนหิน หมายถึงเมื่ออยู่ในที่ๆ เสีบเปรียบก็อย่าหาเรื่องผู้อื่น
51."Time and tide wait for no man" = เวลาและกระแสน้ำไม่เคยคอยใคร
52. Everyone thinks his own burden the heaviest. = ทุกคนมักคิดว่าภาระของตนหนักกว่าของผู้อื่นเสมอ
53. No one is too old to learn = ไม่มีใครแก่เกินเรียน
54. Reading makes a full man. = การอ่านหนังสือทำให้เป็นคนที่สมบูรณ์
55. All men naturally desire to know. = มนุษย์ทุกคนย่อมอยากรู้โดยธรรมชาติ
56. Be quick to hear and slow to speak.= ฟังให้เร็ว แต่พูดให้ช้า
57. Live to learn to live. = จงอยู่เพื่อเรียนรู้การดำรงชีวิต
58. Brave actions never want trumpet. = การกระทำอันกล้าหาญ ไม่จำเป็นต้องป่าวประกาศ
59. Words once spoken cannot be altered. = คำพูดที่กล่าวไปแล้ว ย่อมไม่อาจจะเปลี่ยนแปลงได้
60. Though strength fails, boldness is praiseworthy. = ถึงแม้ว่ากระทำสิ่งใดยังไม่เป็นผลสำเร็จ
แต่การที่ได้กล้าทำนั้นควรได้รับการยกย่อง
61. No one is harmed by thinking. =การไตร่ตรองยั้งคิด ไม่เคยทำอันตรายใคร
62. Order will render the work facile. = ความมีระเบียบวินัย เป็นสิ่งที่ทำให้การทำงานราบรื่นขึ้น
63. Every obstacle is surmountable. = อุปสรรคทุกอย่าง ย่อมผ่านพ้นไปได้เสมอ
64. Health is wealth. = ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ
65.What can't be cured must be endured. =เมื่อสิ่งใดหมดทางที่จะแก้ไขได้แล้ว ก็ต้องยอมรับและทนในสิ่งนั้น
66. Peace begins where ambition ends. =ความสงบจะเริ่มขึ้น ณ ที่ซึ่งความเห่อเหิม ทะเยอทะยานได้สิ้นสุดลงแล้ว
67. Trial and error is the source of our knowledge. =เมื่อได้ทดลองทำสิ่งใดๆ แล้วผิดพลาด
นั่นคือข้อมูลแห่งความรู้ของเราเอง
68. Happyness belong to the contented. =บุคคลจะมีความสุขหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับความพอใจ
69.Don't shrink any task because of its arduousness. =อย่าละทิ้งงานใดๆ เพียงเห็นว่างานนั้นยาก
70.The tongue is like a sharp knife; it kills without drawing blood.= ลิ้นเหมือนมีดคม สามารถฆ่าได้โดยไม่มีเลือดตก
ที่มา: http://www.thaigoodview.com/node/16648
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น