วันจันทร์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2553

พีซี 2011 บู๊ตเครื่องเสร็จในไม่กี่วินาที

และแล้วก็ได้เวลายกเครื่องเทคโนโลยีที่โบราณที่สุดในคอมพิวเตอร์นั่นก็คือ BIOS (เฟิร์มแวร์ หรือชุดคำสั่งในชิปที่ทำหน้าที่เริ่มต้นการทำงานของคอมพิวเตอร์) โดยรายงานข่าวล่าสุดอ้างว่า คอมพิวเตอร์ในปีหน้าจะได้รับการติดตั้งเทคโนโลยีใหม่ที่เรียกว่า UEFI (Unified Extensible Firmware Interface) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีของ Intel เช่นเดียวกับพอร์ต USB และ PCI Bus

BIOS (Basic Input Output System) เกิดมาพร้อมกับคอมพิวเตอร์รุ่นแรก ย้อนกลับไปเมื่อสมัยที่ด DOS และ Microsoft เพิ่งจะเริ่มเข้าสู่ตลาด โดย BIOS จะเป็นส่วนที่เริ่มต้นเตรียมความพร้อมให้กับการทำงานของฮาร์ดแวร์ คอมพิวเตอร์ก่อนที่ระบบปฎิบัติการจะเข้ามารับช่วงต่อในระดับการทำงานที่สูง ขึ้น โดย BIOS จะเป็นชุดคำสั่งที่อยู่ในชิปบนเมนบอร์ดของ PC-Compatible โดยตลอดระยะเวลา 25 ปีมันได้รับการเปลี่ยนแปลงและปรับปรุงการทำงานเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

แต่สำหรับผู้มาใหม่อย่าง UEFI ตามรายงานของสำนักข่าว BBC อ้างว่า มันจะทำให้คอมพิวเตอร์สามารถบู๊ตเครื่องด้วยการกดปุ่ม Power ไม่ใช่รีสตาร์ทให้ระบบพร้อมทำงานได้ภายในไม่กี่วินาที แม้มันจะไม่เหมือนทีวีที่เปิดปุ๊บติดปั๊บ แต่ก็ถือว่าใกล้เคียงกับที่อุตสาหกรรม และผู้ใช้คาดหวังแล้ว ก่อนหน้านี้มีบริษัทผู้ผลิตคอมพิวเตอร์บางรายได้เริ่ม ย้ายการพัฒนาฮารืดแวร์ไปใช้ UEFI ตั้งแต่ปี 2009 ปัญหาของ BIOS ในปัจจุบันก็คือ แกนการทำงานของมันยังคงยึดติดเทคโนโลยีฮาร์ดแวร์ของคอมพิวเตอร์รุ่นก่อนๆ โดยเฉพาะฮาร์ดแวร์บางอย่างที่เลิกใช้ไปแล้วเช่น พอร์ต PS/2 เป็นต้น

สำหรับ ระบบปฏิบัติการ Windows 7 จะสนับสนุน UEFI อยู่แล้ว แถมยังสามารถเพิ่มคุณสมบัติใหม่เข้าไปอย่างเช่น"แอนตี้ไวรัส"ได้อีกด้วย การ ที่ Intel ผลักดัน UEFI เป็นมาตรฐานบนพีซี นอกจากจะต้องการให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ในการใช้คอมพิวเตอร์ที่ดีขึ้นแล้ว คงจะมองไปถึงการเพิ่มความสามารถของแอนตี้ไวรัสจาก McAfee ที่ทางบริษัทเพิ่งซื้อมาอย่างแน่นอน

ที่มา:http://www.arip.co.th/news.php?id=412363

ญี่ปุ่นทำถุงมือใช้กับอุปกรณ์หน้าจอสัมผัส

ขอรายงานข่าวแก็ดเจ็ต (Gadget) จากแดนปลาดิบกันบ้างดีกว่า บริษัทในญี่ปุ่นได้คิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ชื่อว่า Touch Gloves ถุงมือสำหรับผู้ที่ต้องการใช้อุปกรณ์หน้าจอสัมผัสอย่าง iPad หรือ iPhone ในยามหน้าหนาว เรียกได้ว่า สามารถใช้ถุงมือที่สวมไว้ให้ความอบอุ่นสัมผัสใช้งานหน้าจออุปกรณ์พวกนี้ได้ อย่างสบาย ตอบโจทย์สองอย่างในเวลาเดียวกัน

ตาม รายงานข่าวอ้างว่า Touch Gloves ออกแบบมาเพื่อจับกลุ่มลูกค้าที่เป็นพนักงานขาย เพื่อว่า เวลาที่พนักงานเหล่านี้ต้องใช้ iPhone นอกสถานที่ในฤดูหนาว ซึ่งคงไม่ดีนักหากต้องถอดถุงมือออกเวลาใช้งาน เพราะมือของพวกเขาต้องทนกับความหนาวเหน็บ โดยคุณสมบัติการทำงานพื้นฐานของหน้าจอสัมผัสจะใช้เทคโนโลยี Capacitive ที่ตรวจจับกระแสไฟฟ้าจากนิ้วสัมผัสของผู้ใช้ ซึ่งถุงมือ Touch Gloves จะใช้เส้นใยพิเศษถักที่บริเวณปลายนิ้วของถุงมือ ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้งานหน้าจอสัมผัสได้แม้ในยามใส่ถุงมือ สนนราคาที่จะจำหน่ายในท้องตลาดอยู่ที่ 1,500 เยน หรือประมาณ 550 บาท

ที่มา:http://www.arip.co.th/news.php?id=412366

ตะลึง!! ไดรฟ์ฟลอปปี้รุ่นคุณปู่"หนี"น้ำได้

เริ่มต้นเช้าวันจันทร์ขออนุญาตนำเสนอข่าวเบาๆ กันก่อนนะครับ คุณคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าถ้วยกาแฟหกไปที่ไดรฟ์ฟลอปปี้ 5-1/4 นิ้วรุ่นพกพาสมัยคุณปู่ของ Apple คำตอบง่ายๆ ก็คือ เปียกแฉะ เลอะเทอะ และที่แย่ยิ่งกว่าเกิดการลัดวงจรการทำงานภายในจนถึงขั้นทำให้ไดรฟ์เสียหาย ได้

ประเด็นนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่ของศิลปิน และนักประดิษฐ์สติเฟื่องชื่อว่า Chambers Judd ซึ่งเขาไม่ยอมปล่อยให้เป็นเช่นนี้ได้ โดยเขาจินตนาการต่อไปว่า ที่ไดรฟ์ฟลอปปี้ต้องโดนน้ำจากเหตุการณ์ลักษณะดังกล่าว นั่นเป็นเพราะมันไม่รู้จักหลบ หรือป้องกันตัวเอง ว่าแล้ว Judd ได้ตัดสินใจดัดแปลงให้ไดรฟ์ฟลอปปี้ของเขาไม่ต้องเผชิญชะตากรรมที่ว่านี้ด้วย การติดตั้ง"ขา"ที่ให้มันลุกขึ้นยืน"หนี"น้ำ หรือกาแฟที่หกใส่ได้โดยอัตโนมัตินั่นเอง เฮ่อ..คิดไปได้นะคนเรา คุณผู้อ่านที่สนใจไอเดียแบบนี้สามารถเข้าไปชมเพิ่มเติมในเว็บไซต์ chambersjudd ได้เลยครับ

ที่มา:http://www.arip.co.th/news.php?id=412367

หนอน Facebook หลอกผู้ใช้ให้คลิก Like

รายงานข่าวล่าสุด หากคุณผู้อ่านเว็บไซต์ arip ใช้โซเชียลเน็ตเวิร์กอย่าง Facebook ควรระวังหนอนอันตรายที่ฝังมากับลิงค์ที่ระบุว่า "Shocking!!! This Gile Killed Herself After Her Dad Posted This Photo" โดยหลังจากที่เหยื่อคลิกลิงค์นี้ ก็จะถูกพาไปยังอีกหน้าเว็บหนึ่ง ซึ่งหนอนจะหลอกให้ผู้ใช้คลิก Like เพื่อเริ่มแพร่ข้อความ และลิงค์ดังกล่าวผ่าน Wall ของผู้ใช้บน Facebook ไปยังเพื่อนๆ อย่างรวดเร็ว

ประเด็นคือ หากผู้ใช้ไม่คลิกลิงค์อันตรายข้างต้น การแพร่สะพัดของหนอนก็จะไม่เกิดขึ้น แต่เนื่องจาก"ข้อความ"ที่ส่งมา อาจจะทำให้ผู้รับเกิดความสนใจ อยากรู้ว่าเหตุผลกลใด เด็กผู้หญิงคนนี้ถึงฆ่าตัวตาย เอาเป็นว่า อย่าหลงเชื่อคลิกก็แล้วกัน ล่าสุดทาง Facebook ได้เตือนให้ผู้ใช้อย่าคลิกลิงค์นี้

สำหรับ การแพร่กระจายของหนอนตัวใหม่จะเป็นการใช้ช่องโหว่ JavaScript ที่พบใน Facebook ซึ่งนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีการอาศัยช่องโหว่ดังกล่าวในการแพร่กระจาย และมันคงจะไม่ใช้ครั้งสุดท้ายอย่างแน่นอน ยังไงชาว Facebook ที่รับทราบแล้ว ฝากเตือนเพื่อนๆ ให้ระวังตัวกันหน่อยนะครับ

ที่มา:http://www.arip.co.th/news.php?id=412368

Toshiba ผุดทีวี 3D ไม่ง้อแว่นปลายปีนี้!!!

รายงานข่าวล่าสุด โตชิบา (Toshiba) ประกาศว่า ทางบริษัทได้ัพัฒนาทีวี 3D เครื่องแรกของโลกที่สามารถรับชมได้โดยไม่ต้องสวมแว่นตา โดยเหมาะสำหรับรับชมในห้องนั่งเล่นขนาดเล็ก เพื่อให้ได้อรรถรสของ 3D ทีสมบูรณ์แบบ ทั้งนี้ Toshiba Glasses-less 3D REGZA GL1 Series จะวางตลาดในญ๊่ปุ่นช่วงปลายปี 2010 นี้แล้ว โดยจะมีให้เลือก 2 รุ่นด้วยกันคือ 12 นิ้ว (12GL1) และ 20 นิ้ว (20GL1)

ความ ลับของเทคโนโลยีทีวี 3D แบบไม่ต้องสวมแว่นตาของโตชิบาก็คือ การติดตั้งแผ่นเลนส์พิเศษที่เรียกว่า Lenticular (เลนส์ที่ประกอบขึ้นจากเลนส์ขนาดเล็กมากมาย) ทับชึ้นไปหน้าจอ LCD (แบ็คไลท์เป็น LED) โดยผลลัพธ์ที่ได้จะทำให้ผู้ชมสามารถมองเห็นภาพในมุมมองที่แตกต่างกันพร้อม กันถึง 9 ภาพ ซึ่งจะมองเห็นได้เมื่อผู้ชมนั่งอยู่ในโซนของการรับชมเท่านั้น ทาง Toshiba แนะนำว่า ควรนั่งห่างจากจอประมาณ 65 ซม. สำหรับรุ่น 12 นิ้ว และ 90 ซม.สำหรับรุ่น 20 นิ้ว

อย่าง ไรก็ตาม ทีวี 3D ทั้งสองรุ่นจะยังไม่สนับสนุนการรับชมภาพยนต์แบบ Full HD เนื่องจากมันสนับสนุนความละเอียดสูงสุดที่ 1,280 x 720 สำหรับรุ่น 20GL1 และ 466x350 สำหรับรุ่น 12GL1 ในส่วนของราคาทีวี 3D ทั้งสองรุ่น ทาง Toshiba ยังไม่ได้เปิดเผยออกมาแต่อย่างใด คงต้องติดตามกันอีกทีว่า จอเล็กขนาดนี้ราคาจะใหญ่ขนาดไหน

ที่มา:http://www.arip.co.th/news.php?id=412369